รอยัล เอนฟิลด์ รียูเนี่ยน ไทยแลนด์ 2018 ครั้งแรกในประเทศไทยกับงานรวมสาวกรอยัล เอนฟิลด์ทั่วประเทศ

Royal Enfield

Reunion Thailand 2018

 ครั้งแรกในประเทศไทยกับงานรวมสาวกรอยัล เอนฟิลด์ทั่วประเทศ 



      ผ่านไปด้วยดีกับงาน Royal Enfield Reunion Thailand 2018 ที่พาเพื่อนๆชาว RE ไปร่วมกิจกรรมสุดพิเศษกันถึง
เขาใหญ่ ในวันที่ 16-18 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ถือเป็นวันครบรอบ 2 ปี ของค่าย Royal Enfield  ในประเทศไทย อีกด้วย
โดยนัดรวมตัวกันที่ Royal Enfield ทองหล่อ เมื่อรับฟังเส้นทางการขับขี่เสร็จเรียบร้อยก็แต่งตัวพร้อมเดินทางสู่เขาใหญ่
พักที่พักสุดชิลด์ที่ The Vintage Hotel เขาใหญ่ พร้อมรับประทานอาหารร่วมกันอย่างเป็นกันเอง



      พร้อมด้วยคุณ สมรรถ รอบบรรเจิด กล่าวต้อนรับครอบครัว RE ก่อนที่จะแยกย้ายกันพักผ่อนกันตามอัธยาศัย




      ตื่นเข้ามาวันนี้ที่สอง หลังจากรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยก็จัดแจงพาไปชมเขื่อนลำตะคลอง ที่เขายายเที่ยง
พร้อมเก็บรูปบรรยากาศกันอย่างเต็มอิ่ม เมื่อกลับมาที่พักในช่วงบ่ายก็มาร่วมกิจกกรรมต่างๆ ของทาง RE ที่จัดไว้ให้เพื่อนๆ
ทุกคนร่วมกิจกรรม






      อาทิเช่น การแข่งขัน Kick Start , Slow Race ซึ่งสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับสาวกชาว RE กันอย่างเต็มที่





      พอแดดร่มลมตก ก็ถึงเวลาปาร์ตี้ มีวง Black Head มาขับกล่อมเพลงจังหวะสุดเร้าใจให้ฟังอย่างใกล้ชิด พร้อมมอบของรางวัลชนะเลิศแก่ทีมที่ชนะในเกมต่างๆ ซึ่งงานครั้งนี้เป็นทั้งการรวมตัวของชาว RE ทั่วประเทศ เพื่อพบปะสังสรรค์และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน เพื่อนๆท่านใด ที่ไม่ได้มาถือว่าพลาดจริงๆ แต่ใช่ว่าจะมีแค่ครั้งเดียว รอบหน้าแนะนำอย่าพลาดนะครับ


สามารถติดตามข่าวสารต่างๆได้ที่www.facebook.com/royalenfieldsocietythailand 


      พร้อมได้ทดสอบรถถึง 2 รุ่น อย่าง Classic 500 ที่เป็นรถที่ขับขี่ชิลด์ๆสบายๆ เหมาะแก่การเดินทางที่ระยะทางไม่ไกลมากนัก รูปทรงนั้นยังคงกลิ่นอายรถยุคสงครามโลกที่ใช้งานในการรบ ทำให้ตัวรถดูอึด ถึก ทน เพมาะแก่การใช้งานในทุกรูปแบบ
อัตราเร่งไม่จัดจ้าน แต่ความหล่อนั้นถือได้ว่าจัดเต็มจริงๆ ท่านั่งการขับขี่ก็สะดวกสบาย ไม่เมื่อยหลัง เบาะใหญ่และนิ่ม ขี่ทางไกลสบายๆ พูดถึงอัตราเร่งที่รู้กันดีว่า เป็นรถที่ไว้ขับขี่ชิลด์ๆสบายๆ ไม่จัดจ้านมากนัก แต่เมื่อต้องการจะใช้ความเร็วก็สามารถทำได้
ไม่อายใครเช่นกัน ระบบกันสะเทือนทั้งหน้าและหลังออกแบบมาให้เหมาะสมกับการใช้งานในเมืองเป็นอย่างดี
ส่วนการใช้งานเข้าโค้งที่ความเร็วไม่สูงมากนักก็ยังคงตอบสนองได้อย่างดี อีกสิ่งที่สำคัญอย่างมาก ตัวรถรุ่นนี้เป็นรถที่ประหยัด
น้ำมันอย่างมาก ขี่สบายแถมประหยัดอีก ถือว่าดีคร้าบบ
 

      ส่วนอีกรุ่นที่ได้ทดสอบเป็นรุ่น Himalayan ที่เป็นรถในสไตล์ Adventure ทรงพอเหมาะพอดีกับชาวเอเชียอย่างเราๆ
ระบบกันสะเทือนที่ให้มา ใช้งานได้อย่างดีเยี่ยมกับทุกสภาพเส้นทางในบ้านเรา นิ่มเมื่ออยู่บนทางดำ หนึบเมื่ออยู่บนทางดิน
ล้อหน้าขนาด 21 นิ้ว ล้อหลังขนาด 17 นิ้ว อัตราเร่ง ตัวเครื่องยนต์ถูกออกแบบให้มีกำลังในรอบต้นที่เยอะ เอาใจสายลุย
แต่ใช่ว่ารอบปลายจะไม่มี ลากรอบกันยาวๆ ก็ไม่มีปัญหา ท่านั่งการขับขี่ เป็นรถที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างเอนกประสงค์จริงๆ
ไม่ว่าจะลุยหรือจะขี่ใช้งานในเมือง ก็คล่องตัว วินชิลด์ด้านหน้าออกแบบมาให้ตัดลมได้เป็นอย่างดี  การออกแบบตัวรถภายนอก
จะเน้นไปที่การใช้งานเป็นหลัก ไม่เทอะทะ อุปกรณ์เสริมและป้องกัน มีมาให้ครบครัน การ์ดกันแคร้งด้านล่างถูกติดตั้งมาให้
ช่วยให้ลุยกันได้อย่างไม่ต้องพะวงแคร้งแตก เบาะนิ่มและกว้าง นั่งสบาย