1967 จำนวนผู้เข้าชม |
TEST RIDE
Yamaha YZF R7
ว่ากันด้วยเรื่องแทร็คเปียกกับ YZF R7 !!!
หลังจากเปิดตัวพร้อมราคาสุดเร้าใจไปไม่นาน ทาง Yamaha Thailand ก็ไม่รอช้า จัดขบวนสื่อมวลชนเข้าร่วมทดสอบ YZF R7
ที่สนาม Chang International Circuit เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา พร้อมกับพายุฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างไม่ขาดสาย ทำให้การทดสอบรถครั้งนี้
ถูกเลื่อนระดับความท้าทายเพิ่มขึ้นไปอีก
มาเข้าเรื่องกันดีกว่า สำหรับการทดสอบรถ ของวันนี้ กับพายุฝนที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ทางนายสนามได้ประกาศให้เป็นการขับขี่แบบ Wet Race
ตอนแรกตัวผมเองก็คิดไว้ในใจว่าทาง Yamaha จะเปลี่ยนยางแบบฝนให้เราหรือเปล่า และเมื่อเข้าห้องประชุมเสร็จก็ได้ผลมาว่า ทาง Yamaha เอง
อยากให้ทดสอบประสิทธิภาพ ด้วยยางเดิมติดรถ เพราะการออกแบบของตัวรถนั้นสามารถใช้งานได้ทุกสภาพอากาศทั้งพื้นแห้ง พื้นเปียก เอาละสิ
งานนี้มีสนุกแน่ โดยการทดสอบวันนี้จะเน้นย้ำไปที่ความปลอดภัยเป็นหลัก ทางทีมครูเป็ด “วรวุฒิ พุทโธ” ได้สอนทริคในการขับขี่สนามเปียก
อย่างละเอียดก่อนลงไปทำการทดสอบ และเมื่อได้ทริคกันมาแล้ว เราก็ไปลองกันเลย
ฟิลลิ่งแรกเมื่อได้สัมผัส มันเป็นรถที่มีความปราดเปรียวอย่างมาก ทั้งตัวรถที่เล็กบวกกับน้ำหนักเพียง 188 kg. อารมณ์มันเหมือนไม่ใช่รถ
ที่เครื่องยนต์ 700 cc. เหมือนรถ 300 cc. เสียมากกว่า ด้วยความที่เป็นเครื่องยนต์ Cross Plane 2 สูบ การออกแบบจึงสามารถบีบเฟรมกับ
แฟริ่งให้มันเล็กลงมากกว่าพวก R6 และ R1 ที่เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง บวกกับเบาะที่กว้าง จึงทำให้รู้สึกถึงความสบายเมื่อลองคร่อม
แฮนด์จับโช้คก็จริง แต่องศามันไม่ได้ก้มมาก ถือว่าจุดนี้ออกแบบมาให้ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย เป็นรถทรง Sport ที่เน้นการใช้งานได้
ทุกรูปแบบมากกว่าจะเน้นไปที่การขับขี่ในสนามเหมือนกับรุ่นอื่น
เมื่อเริ่มลงสนามก็รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกันนะ ว่ามันจะลื่นไหม จะเบรกอยู่ไหม อะไรเยอะแยะมากมายที่เกิดขึ้นในหัวของผมตอนนี้ แต่ก็ช่างเถอะ
เมื่อทางค่ายบอกว่าได้ มันก็ต้องได้สิเนอะ เริ่มเข้าสนามก็ลองเย่อคลัทช์เบาๆ เพื่อเช็คความยึดเกาะถนนของยาง Bridgestone Battlax Hypersport
S22 มันก็หนึบอยู่นะ อาจมีอาการฟรีทิ้งบ้างนิดหน่อยพอให้ได้เสียว แต่เมื่อหน้ายางรีดน้ำออกไปเเล้วสัมผัสกับพื้นเเทร็คได้เต็มที่ หน้านี่ลอยเอาได้ง่ายๆเลย
นะ หลังจากวอร์มรถและดูไลน์การขับขี่ในสนามประมาณ 2-3 รอบ เราก็เริ่มกดคันเร่งเพื่อทดสอบหาประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ CP2 ตัวนี้กันบ้าง
ทางตรงระหว่างโค้ง 1 ไปถึงโค้ง 3 แค่เกียร์ 5 มันทำความเร็วได้ 210 km./hr. แรงเอาเรื่องเลยเหละ
แต่อย่างที่บอกการขับขี่ครั้งนี้ต้องเพิ่มความปลอดภัยเป็นพิเศษ เราจึงสามารถทำความเร็วสูงสุดได้เเค่นี่ ถ้าสภาพสนามดีๆนะ ผมว่ามี 250-260
km./hr. แน่นอน ความเร็วขนาดนี้ จะเข้าโค้งกันยังไง น่าเหลือเชื่อครับกับเบรกหน้าที่เรากำจนสุดมันเอาอยู่ไม่มีอาการแม้แต่อย่างใด เรียกได้ว่า
การทำงานร่วมกันระหว่างเบรกหน้าและระบบ ABS ของเจ้าคันนี้ทำงานได้ปลอดภัยจริงๆ นี่ขนาดทางเปียก ฝนตกๆยังทำได้ดีขนาดนี้ ถ้าทางแห้งๆล่ะ
ไม่ต้องกังวลเลย สบายใจได้
ถึงเครื่องยนต์ตัวนี้จะเป็นบล็อคเดียวกับ MT-07 ก็จริง แต่ด้านในเครื่องถูกปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสไตล์รถ Sport มากที่สุด ทั้งอัตราเร่งที่สามารถ
รีดได้ถึง 67 Nm./6,500 rpm. ส่วนเเรงม้าปั่นได้ถึง 73.4 hp./8,750 rpm. เห็นได้เลยว่ารอบต้นจนถึงกลางจัดมาก เน้นการใช้งานที่สนุก ไม่ต้อง
ลากรอบมากเหมือนเครื่องยนต์ 4 สูบ ต้องบอกแบบนี้เลย คาแร็กเตอร์ของเครื่องยนต์ตัวนี้ถึงจะเป็นพื้นฐานเดียวกัน แต่อารมณ์ที่ได้ขับขี่
มันคนละเรื่องกันเลย รอบมีมาให้ใช้งานตลอด กระแทกคันเร่งทีหน้าจะลอยย่างเดียวเลย ทางด้านระบบรองรับน้ำหนัก ยัดมาให้แบบไม่มีกั๊ก
โช้คหน้า KYB USD Full Adjust แกน 41mm.
โช้คชุดนี้เข้าโค้งที่ความเร็วสูงมีความนิ่งไม่ต่างกับรุ่นพี่อย่าง R1 เป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากรุ่นสู่รุ่นได้อย่างลงตัว แต่ก็มีจังหวะนึง
ที่เผลอบานโค้งออกไปเหยียบขอบเป็กของสนาม รถมีอาการส่ายและปลิ้นอย่างน่ากลัว เล่นเอาผมใจนี่กระเด็นออกไปนอกตัวรถเลยครับ
เพราะตรงจุดนั้นมันมีร่องน้ำใหลผ่านอยู่ แต่ที่น่าตกใจกว่าคือระบบช่วงล่างและยางด้านหลังมันช่วยให้เราไม่ลงไปนอนเล่นน้ำอยู่ข้างแทร็ค
อันนี้ต้องขอชมการออกแบบและเลือกใช้งานชิ้นส่วนต่างๆ ของทางค่าย Yamaha จริงๆครับ ไม่ใช่มีอะไรก็ยัดเข้ามา แบบนี้สิที่เรียกว่า “ลงตัว”
ต่อกันที่ชุดถังน้ำมันที่ปาดเว้ามาเพื่อหลบหมวกกันน็อคเวลาเราหมอบ อันนี้ก็ใช้งานได้จริงครับ ไม่ใช่แค่ทำออกมาเพื่อความสวยอย่างเดียว
ด้านข้างถังยังถูกออกแบบมาให้รับกับท่อนแขนเมื่อเราโหนรถเข้าโค้ง วินชิลด์ด้านหน้า ปกติเราจะวัดกันที่ลม ว่าถ้าหมอบมิดๆแล้วลมจะผ่านหมวกเราไหม
รอบนี้สัมผัสได้ชัดเจนกว่ามากเพราะฝนตก ละอองน้ำและฝน ไหลผ่านหมวกเราไปหมด อันนี้คือดีย์มากอ่ะ
ทั้งหมดนี้มันคือความสนุกสุดๆของผู้ที่ได้อยู่หลังแฮนด์เจ้า YZF-R7 หนึ่งในรถสาย Sport กับการขับขี่ทดสอบจริงในสนามระดับโลก และสนามเปียก มันก็ยังทำได้ดีแถมมีความปลอดภัยสูงเกินราคา 339,000 บาท พร้อมกับความพรีเมี่ยมที่เป็นรถ Made in Japan ทั้งลำ เร้าใจขนาดนี้ ไม่มีไม่ได้แล้ว
ขอขอบคุณ ;
บริษัท ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด และ ยามาฮ่าไรเดอร์คลับ สำหรับประสบการณ์ทดสอบรถสุดพิเศษในครั้งนี้ด้วยครับ
Special Thank ;
- ชุดอุปกรณ์การขับขี่จากร้าน Dirt Shop Thailand
- หมวกกันน้อคจากร้าน 2Power
#YamahaTH #YZF_R7
#FirstExperienceExclusivePressTestYAMAHAYZF_R7inWorldCircuit
#PressTest #WetRace
#Override #OnBoard
#DirtShopThailand #2Power
#SPIDI #XPD #XliteHelmet