3276 จำนวนผู้เข้าชม |
Honda Riding Passion
Japan Passion 23-28 November 2017
Honda Ridding First Day Fukuoka
วันแรกของการเดินทางของคณะ Honda Riding Passion
กับทริป Japan Passion ของผู้ผ่านการทดสอบทั้ง 5 ท่าน และผู้ร่วมทริปการเดินทางอีกกว่า 20 ชีวิต
กับประสบการณ์การขับขี่ท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นได้เริ่มขึ้นแล้วซึ่งคณะเดินทางพร้อมกันที่โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ
เพื่อรับฟังกําหนดการและกฎระเบียบในการขับขี่ก่อนจะขึ้นเครื่องออกเดินทางสู่เมือง ฟุกุโอกะ
จุดเริ่มต้นของการเดินทางในทริปนี้ นับเป็นวันที่ 2 ของการเดินทาง
หลังจากเครื่องลงแล้วคณะ Honda Riding Passion เดินทางสู่ Rico Land ดินแดนในฝันของชาว 2 ล้อ
เพื่อจัดเตรียมเอกสารในการขับขี่รถ Honda CB1100 และให้ผู้ร่วมทริปได้มีโอกาสเลือกซื้ออุปกรณ์การขับขี่ที่จําเป็นอีกด้วย
ซึ่งบรรยากาศของเมืองฟุกุโอกะตอนรับกันได้อย่างเย็นยะเยือก ถึง 12 องศา ในช่วงกลางวัน ส่วนช่วงเย็นถึงกลางคืนมีเลขตัวเดียวกันอย่างแน่นอน
เสร็จจากเรื่องเอกสารกันแล้วคณะขับขี่ก็เดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันกันที่ร้าน Kani-Honke กับอาหารหลากหลายเมนูที่ทํามาจากปูสุดแสนอร่อย
ทานกันเสร็จกลับไปที่ Rico Land เพื่อเตรียมพร้อมสําหรับการเดินทางตามหา Passion ช่วงบ่ายขบวน Honda CB1100
ออกเดินทางสู่ Huisten Bosch ท่ามกลางอากาศอันหนาวเย็นแต่ทุกคนก็มีความสุขกับการขับขี่ในครั้งนี้ตลอดระยะทางร่วม 120 กิโลเมตร
ภายใต้การนําของทีม Marshell ผู้มากประสบการณ์จากญี่ปุ่น ก็พาคณะขับขี่มาถึงที่หมายปลายทางยัง Water Mark Hotel Huisten Bosch
หลังจากจอดรถกันเสร็จก็ขึ้นรถทัวร์ไปชมความสวยงามของสวน มิฟูเนะยามะ ราคุเอน ในยามที่ใบไม้เปลี่ยนสีพร้อมกับตกแต่งไฟไว้อย่างสวยงาม
เดินชมกันเสร็จกลับเข้าโรงแรมรับประทานอาหารมื้อคํ่าก่อนจะแยกย้ายพักผ่อนเตรียมตัวเดินทางในวันต่อไป
Japan Passion ขี่ท้าลมหนาว สู่เส้นทาง Milk Road
เข้าสู่วันที่ 3 ของการเดินทาง Honda Riding Passion ในประเทศญี่ปุ่นกับผู้ที่ผ่านการคัดเลือกทั้ง 5 ท่าน
รวมไปถึงลูกค้า Honda BigBike จากดีลเลอร์ต่างๆ ที่มาร่วมตามหา Passion ในครั้งนี้
สำหรับบรรยากาศในวันที่ 2 นี้ ผู้ร่วมทริป ตื่นกันแต่เช้าเพื่อรับประทานอาหารพร้อมชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นของอ่าว โอมุระ
และชมความสวยงามของตัวโรงแรม Water Mark Hotel กับสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศฮอลแลนด์ เมื่อพร้อมกันแล้วเตรียมตัว
ออกเดินทางกันต่อ
ซึ่งจุดหมายของวันนี้อยู่ที่เมือง อะโสะ จังหวัด คุมาโมโต้ บ้านเกิดของคุมะมงนั่นเอง ระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตร
ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นบรรดาไรเดอร์ทุกคนขับขี่กันบนความทรมานแต่มีความสุข
ช่วงเที่ยงเข้าเขตจังหวัดคุมาโมโต้ เพื่อรับประทานอาหารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ก่อนจะออกเดินทางกันต่อไปยังจุดต่อไป
ไฮไลท์ของวันนี้อยู่ที่ถนนสาย Milk Road เป็นถนนที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดสำหรับการเดินทางสู่เมือง อะโสะ
กับหุบเขาแห่งทุ่งหญ้าที่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองอร่ามทั้งลูก จากตัวเมืองคุมาโมโต้ เดินทางไปอีกประมาณ 80 กิโลเมตร
ค่อยๆไต่ระดับขึ้นเขาไปเรื่อยๆ แต่ยิ่งขี่สภาพอากาศก็ยิ่งเย็นลงเรื่อยๆ แต่คณะเดินทางต่างก็เตรียมพร้อมกันมาอย่างเต็มที่
ชุดป้องกันความหนาวครบเครื่องทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น
ในที่สุดก็มาถึงถนน Milk Road กับท้องทุ่งหญ้าบนยอดเขาแห่งนี้ และไปจอดพักอีกครั้งที่จุดชมวิวขุนเขาของเกาะคิวชู ในฤดูใบไม้ร่วง
ซึ่งเป็นจุดที่นักขี่มอเตอร์ไซค์ต้องมาเช็คอินกัน
ใช้เวลาชมวิวเก็บภาพกันเสร็จก็ออกเดินทางสู่ที่พักของค่ำคืนนี้ซึ่งก็คือ Aso Fram Land Resort
จากจุดชมวิวขี่ลงมาสู่พื้นราบด้านล่างของเมือง อะโสะ
ใช้เวลาไม่นานนีกก็มาถึงที่พัก และสำหรับที่ Aso Fram Land Resort แห่งนี้ เป็นที่พักท่ามกลางหุบเขาล้อมรอบไปด้วยป่า
ทำให้อากาศยิ่งหนาวเย็นขึ้นไปอีก เมื่อได้รับกุญแจห้องกันไปแล้วก็ไปทานมื้อค่ำแบบบุฟเฟต์ และไฮไลต์ของที่นี่ก็คือมีบ่อออนเซ็นน้ำแร่จากธรรมชาติ
ลงไปแช่น้ำอุ่นๆผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการขี่รถได้เป็นอย่างดี ก่อนจะแยกย้ายไปพักผ่อนเตรียมพร้อมตามหา Passion ในวันต่อไป
มาถึงวันที่ 4 ของการเดินทางในทริป Japan Passion
เช้าวันนี้สายฝนโปรยปรายมาเบาๆ หมอกลงจัดจนบดบังแนวเขาอะโสะ คณะเดินทางมีการเปลี่ยนแผนกันนิดหน่อยในวันนี้
จากเดิมที่ต้องขี่รถ Honda CB1100 ไปยังช่องเขา ทากาชิโฮะ เพื่อชมความสวยงามของธรรมชาติ ที่เกิดจากรอยแยกของภูเขา
ซึ่งมีแม่น้ำ โกคาเซะ ตัดผ่าน แต่เนื่องจากสภาพอากาศที่ค่อนข้างจะทรมานผู้ขับขี่เพราะวันนี้ต้องเดินทางอีกไกล จึงเปลี่ยนมานั่งรถบัสไปแทน
ใช้เวลาเดินทางชั่วโมงกว่าๆก็มาถึงจุดหมาย ไกด์ประจำทริปพาคณะเดินทางไปชมความอัศจรรย์ของที่เกิดจากธรรมชาติของช่องเขา ทากาชิโฮะ
เกิดจากรอยแตกของภูเขาที่มีแม่น้ำโกคาเซะตัดผ่าน 2 ข้างจะเป็นหินสูงชัน
เหมือนหน้าผาที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟจนมีรูปร่างคดเคี้ยวเหมือนมังกร ซึ่งจะมีน้ำตก มินาอิโนทาคิ
ที่สูงถึง 17 เมตรอยู่ในช่องเขานี้แห่งนี้อีกด้วย ซึ่งบรรยากาศที่หนาวเย็นและหมอกจางๆทำให้เดินดูเก็บภาพความประทับใจกันอย่างเพลิดเพลิน
มองดูเวลาก็ได้เวลาอาหารกลางวันพอดี สำหรับในมื้อนี้ทุกท่านจะได้ทานอาหารในแบบฉบับของชาวคิวชูแท้ๆ
หลังจากทานกันเสร็จเดินทางกลับไปยังลานจอดรถของโรงแรมเตรียมตัวเดินทางกันต่อถึงแม้สายฝนไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่ายๆ
แต่นั่นก็ไม่ทำให้BIKER อย่างเราท้อแท้ จึงตัดสินใจขับขี่มอเตอร์ไซค์ลุยกันต่อ
จุดหมายต่อไปคือเมือง โคโคโนเนะ ใช้เวลาเดินทางประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง เพราะด้วยสภาพถนนที่เปียก และเป็นเลนสวนบนเขาที่คดเคี้ยว
จึงต้องใช้ความระมัดระวังกันเป็นพิเศษ
ในที่สุดก็มาถึงแลนด์มาร์คที่สำคัญอีกหนึ่งแห่งก็คือ สะพานแขวนโคโคโนเอะยูเมะ เป็นสะพานแขวนที่สูงและยาวที่สัดสำหรับการเดินชมในญี่ปุ่น
มีความสูง 173เมตร ความยาว 390 เมตร มันถูกออกแบบให้รองรับน้ำหนักของประชาชน 1,800 คนต่อครั้ง
จากสะพานคุณสามารถเห็นน้ำตกชินโดอุที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในร้อยน้ำตกของญี่ปุ่น และในช่วงฤดูใบไม้ร่วงแบบนี้
สามารถเพลิดเพลินกับภาพที่สวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีในหุบเขา คิวซูอิ อีกด้วย
รับชมกันเสร็จแล้วออกเดินทางกันต่อไปยังเมือง โออิตะ เพื่อเข้าสู่โรงแรม Beppuwan Royal Hotel ระยะทางไม่ไกลมานักแต่ยังต้องข้ามเขาอีกหลายลูก
มาถึงที่พักกันช่วงเย็นๆแต่สำหรับที่ญี่ปุ่นในฤดูนี้ทำให้ฟ้ามืดค่อนข้างเร็ว เข้ามาถึงโรงแรมรับกุญแจห้องกันเรียบร้อยก็เปลี่ยนใส่ชุดยูคาตะ
เพื่อลงมารับประทานอาหารค่ำกันที่ห้องรับรองของโรงแรมเมนูในค่ำคืนนี้เป็นอาหารพิเศษของชาวญี่ปุ่นที่ไว้ใช้รับรองแขกผู้มาเยือนนั่นเอง
อิ่มหนำกันแล้วก็ได้เวลาพักผ่อนและที่นี่มีบ่อออนเซ็นขนาดใหญ่แช่น้ำอุ่นช่วยให้หลับสบาย เตรียมตัวสำหรับเดินทางในวันพรุ่งนี้
ซึงเป็นวันสุดท้ายของทริป JapanPassion
Honda Riding Passion Japan Riding Last Day
การเดินทางวันสุดท้ายของคณะ Honda Riding Passion กับทริปการขับขี่ในประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งวันสุดท้ายของการขับขี่รถคณะผู้ขับขี่เดินทางจากโรงแรมเมืองเบปปุ มุ่งหน้าสู่จังหวัดโออิตะ เพื่อเยี่ยมชมปราสาทนาคาทสึ
ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องของคูน้ำล้อมรอบปราสาทที่เต็มไปด้วยทะเล ซึ่งหาได้ยากในญี่ปุ่น
สำหรับบรรยากาศการเดินทางในวันนี้นั้นอากาศเริ่มอุ่นขึ้นมานิดหน่อยทำให้การขับขี่ CB1100 เป็นไปอย่างชิลๆ ใช้เวลาขี่ประมาณ 2 ชั่วโมง
ก็มาถึงยังตัวปราสาท
จอดรถเรียงกันบริเวณด้านหน้าปราสาทเพื่อถ่ายรูปหมู่กันซักหน่อย จากนั้นก็ปล่อยให้คณะเดินทางเข้าเยี่ยมชมความสวยงาม
ภายในปราสาทซึ่งกด้านในก็มีจัดแสดงศิลปะและวัฒนธรรมของเมืองนาคาทสึ ไม่ว่าจะเป็นชุดเกราะซามูไร ภาพวาด สิ่งของต่างๆ
ด้านบนเป็นจุดชมวิวซึ่งจะเห็นวิวรอบเมืองได้ จากนั้นก็ลงมาที่ลานจอดรถเก็บภาพเดี่ยวของผู้ร่วมทริปเป็นที่ระลึก
เสร็จจากปราสาทนาคาทสึ เดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองฟุกุโอกะไปยัง Rental819 & Ricoland เพื่อนำรถ CB1100 ไปคืน
เป็นอันจบทริปการขับขี่ท่องเที่ยวเปิดประสบการณ์ในประเทศญี่ปุ่น
หลังจากคืนรถกันเสร็จในช่วงบ่ายรับประทานอาหารกันเสร็จ
ช่วงเย็นคณะทัวร์แยกย้ายกันไปช็อปปิ้งไม่ว่าจะเป็นย่าน เทนจิน ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฟุกุโอกะ ซึ่งจะมีร้านขายของรวมไปถึงห้างมีสินค้าให้เลือก
หลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้าแบรนด์เนม เครื่องสำอางค์ ร้านอาหารอีกมากมาย
แต่ส่วนใหญ่เลือกที่จะไปร้าน Naps เป็นร้านจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับรถจักรยานยนต์ต่างๆในราคาพิเศษ
ช่วงค่ำเป็นงานเลี้ยงปาร์ตี้ขอบคุณของผู้ร่วมทริปทุกคน พร้อมรับชมภาพความประทับใจระหว่างการเดินทางกันอย่างมีความสุข
ก่อนจะแยกย้ายกันไปพักผ่อนและเดินทางกลับในวันรุ่งขึ้น
ทั้งหมดนี้ก็คือการตามล่าหา Passion ของผู้ที่ผ่านการคัดเลือกทั้ง 5 ท่าน และผู้ร่วมทริปทุกคนในครั้งนี้ ยังเหลืออีก 1 Passion
ที่ยังต้องเดินทางในทริปนิวซีแลนด์ในต้นปีหน้า
สามารถติดตามบรรยากาศการเดินทางตามหา Passion ได้ที่แฟนเพจ https://www.facebook.com/HondaBigBikeTH/
ที่จะมีกิจกรรมดีๆมาให้เพื่อนๆได้ติดตามร่วมสนุก แล้วเจอกัน PASSION ต่อไปครับ
#HondaBigBike #RidingPassion #JapanPassion #Passionจะไร้ค่าถ้าออกไปทํา